- โพสต์ขายบ้านด่วน
- สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ
-
ภาษาไทย- th
-
THB - ฿
- ซื้อ
- ประเภทอสังหาฯใน เชียงใหม่
- เชียงใหม่
- ดูประกาศล่าสุด
- ซื้อบ้านกับ KaiBaanThai ดีอย่างไร?
- เช่า
- ขาย
- โครงการทั้งหมด
- คำถามที่พบบ่อย
โครงการ เดอะ เน็กซ (เจ็ดยอด 2) เป็นโครงการประเภท คอนโด / อพาร์ทเม้นท์ ตั้งอยู่ในทำเลพื้นที่ ช้างเผือก, เชียงใหม่ ซึ่งมีแผนการก่อสร้างให้แล้วเสร็จใน พ.ย. 2567 โดยมีทั้งหมด 4 ชั้น รวมทั้งสิ้น 30 ยูนิต ซึ่งเป็นโครงการคุณภาพโดย Ornsirin Group และเป็นบริษัทเดียวกันที่ได้พัฒนาโครงการ Ornsirin Ville - Chotana (อรสิรินวิลล์ โชตนา), Arise Charoen Mueang (อะไรซ์ เจริญเมือง) และ The Next Ruamchok - City Hall (เดอะ เน็กซ์ รวมโชค-ซิตี้ฮอลล์). อีกด้วย
ลองเช็คดูก่อนว่าบ้านของคุณนั้นควรมีราคาอยู๋ที่ประมาณเท่าไหร่ ในทำเลนี้?
The company was founded by acquirring a small housing project and renamed as “Ornsirin 1” with a starting capital of 10 million Baht. With in only one year, the company was able to close the first housing project sale. - 2006
2007 – 2009 During these years, Thailand’s property boom has benefited our company’s sales revenue. The sales was gradually increased and the company developed another project; Ornsirin 2.
2010 – 2011 The Company expanded exponentially; 5 projects (namely Ornsirin 3, Ornsirin 4, Ornsirin 5, Ornsirin Townhome 1 and The Next Condominium 2) where our first townhouse project and condominium project were launched during these years. The company’s sales revenue started to grow steadily.
2012 The company increased the registered capital to 500 million baht, preparing for expansion of new property development projects. The total capital of the conpany and subsidiaries were at 700 million baht, where 6 new projects (Ornsirin 6, Business Center 1, Business Center 2, The Next Condominium 1 and The Next Condominium 3) were launched during this year.
2013 – 2014 Ornsirin saw big potential in luxury property market, The ASTRA Condominium (one of the biggest residential condominiums with over 60,000 sqm. of construction area in Chiangmai) was launched. Four low-rise projects were also launched; namely Business Center 4, Business Center 5, Ornsirin 11 and Ornsirin 14, which eventually pushed the toal project value to 8,600 million baht.
2015 During this year, Ornsirin has gone through series of improvements which including restructuring the management of the organization, recruiting real-estate professionals, introducing the Quality Management System (ISO 9001) into the company working system and preparing for listing in Thailand Stock Market in the future. The company mission and vision of being a leading proprty developer in Northern Thailand focusing on building a better living for home buyers and all stakeholders under a good governance were enrooted into our employee’s minds. Parenting company, Ornsirin Holding, was established for enhancing the structure for the company future expansion. Four other subsidiaries were also founded, including of North Home company (focus on high-rise condominium project), North Home property company (focus on low-rise condominium project), Ornsirin Group company (focus on commercial property) and Ornsirin Property company (focus on housing property).
2016 New commercial building of shophouse was launched. Urban Myx was our 19th project on the pipeline.
2017 On Febuary 2017, Five subsidiaries were amalgamated into “Ornsirin Property company”, which operated under “Ornsirin Holding company” in order to preparing to be listed in Thailand stock market later on.
2018 Under our vision of to be a leading property developer in Northern Thailand, Ornsirin is prepared to launch 3 more projects which are a single house project, a modern style townhouse project and resort-style condominium project.
หากคนไทยแต่งงานกับชาวต่างชาติ แล้วต้องการจะซื้อบ้านหรือที่ดิน แล้วทำการโอนกรรมสิทธิ์ในชื่อของคู่สมรสชาวต่างชาตินั้น ตามกฎหมายไทยจะไม่ให้ชาวต่างชาติ ถือครองที่ดินในประเทศไทยได้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้
แต่หากมีความยินยอมระหว่างกันก็สามารถโอนเป็นชื่อคู่สมรสคนไทยได้ตามปรกติ โดยจะมีความซับซ้อนขึ้นอีกเล็กน้อย แบ่งเป็นกรณี
1. "คู่สมรสชาวต่างชาติเตินทางไปที่กรมที่ดินด้วยไม่ได้" จะไม่สามารถใช้เอกสารมอบอำนาจแบบคนไทยได้ แต่จะต้องขอบันทึกถ้อยคำรับรองว่าเงินทั้งหมดที่นำมาซื้อบ้านหรือที่ดินนี้ เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ไม่ใช่สินสมรส และให้หน่วยงาน เช่น สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือโนตารีพับลิค ทำการรับรองว่าทั้งคู่เป็นสามี ภรรยาจริง และให้คู่สมรสคนไทยนำเอกสารรับรอง (เอกสารตัวจริง) ไปดำเนินการต่อที่กรมที่ดินเองต่อไป
2. "หากคู่สมรสชาวต่างชาติสามารถเดินทางไปพร้อมกับคนไทยที่เป็นคู่สมรสได้" ก็แค่ยินดีเซ็นรับรองว่าบ้านหรือที่ดินแปลงที่กำลังจะซื้อกันนี้ จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของคู่สมรสคนไทยเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น
หากคุณได้เข้าเยี่ยมชมโครงการ เดอะ เน็กซ (เจ็ดยอด 2) และตัดสินใจเลือกยูนิตที่ต้องการแล้ว คุณต้องเตรียมตัวกับเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- โอนเงินมัดจำการจอง
- ทำสัญญาตกลงซื้อขาย (อาจจะมีการชำระเงินเพิ่มบางส่วน)
- ผ่อนชำระเงินดาวน์ตามงวดที่ตกลง (ถ้ามี)
- ทำเรื่องเอกสารเพื่อขอกู้ยืมกับธนาคาร
- กำหนดการตรวจรับบ้าน
- หากพบเจอปัญหาการตรวจรับ ให้ลงรายการและแจ้งโครงการให้แก้ไข
- ตรวจรับบ้านรอบสุดท้าย
- กำหนดการโอนกรรมสิทธิ์ และ เซ็นสัญญากู้ยืมกับธนาคาร
สำหรับคอนโดมือหนึ่ง
- ก่อนการยื่นกู้ ผู้ซื้อจะต้องผ่อนชำระเป็นเงินดาวน์กับโครงการเป็นระยะเวลาหนึ่งตามตกลง เพราะฉะนั้นผู้ซื้อควรต้องมีเงินเก็บอยู่ก้อนหนึ่งสำหรับผ่อนดาวน์ให้ครบสัญญา
- เมื่อยื่นกู้ ทางธนาคารมักจะอนุมัติให้กู้ได้เต็มจำนวน 100% ของยอดที่เหลือหลังผ่อนดาวน์ เพราะธนาคารจะประเมินว่าท่านมีศักยภาพเพียงพอในการผ่อนชำระ
สำหรับคอนโดมือสอง
- ไม่มีระบบผ่อนดาวน์กับทางผู้ขาย ก่อนการยื่นกู้
- ธนาคารมักจะไม่อนุมัติเต็มจำนวนให้ โดยทั่วไปจะอนุมัติที่ 80 - 90% ของราคาประเมิน หรือ ราคาซื้อขาย (ธนาคารมักจะเลือกราคาที่ต่ำกว่า)
- ผู้ซื้อควรต้องมีเงินสำรอง เพื่อรองรับกับยอดกู้ที่ขาดไป 10-20% เพื่อเป็นเงินจ่ายตรงให้กับผู้ขาย
- ผู้ซื้อควรมีเงินสำรองอีกก้อน เพื่อใช้สำหรับการซ่อมบำรุง
ทั้งนี้ ผู้ซื้อสามารถเลือกเปรียบเทียบการปล่อยกู้ของแต่ละธนาคารได้ก่อนการยื่นกู้ ซึ่งรายละเอียดอาจจะแตกต่างจากที่กล่าวมาข้างต้น ขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัยและนโยบายของแต่ละธนาคาร
การซื้อคอนโดนั้น สามารถทำได้ตั้งแต่ที่ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง หรือกำลังก่อสร้างอยู่ รวมไปถึงหากอยากมั่นใจริงๆ คือซื้อในช่วงที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว ก็สามารถทำได้ แต่อาจจะไม่ได้ห้องที่ต้องการหลงเหลืออยู่แล้ว เพราะโดยส่วนใหญ่ โครงการคอนโดมักจะเริ่มเปิดขายตั้งแต่ช่วงยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างเลย โดยใช้กลยุทธทางการตลาดต่างๆ เพื่อดึงผู้ซื้อเข้ามาเพื่อนำเงินจองทำสัญญาและเงินดาวน์ต่างๆ เข้ามาเพิ่มเป็นเงินทุนในการดำเนินการก่อสร้างของโครงการ ซึ่งนี่ก็เป็นข้อดีอย่างหนึ่งของผู้ซื้อ ดังนี้
1. ได้รับโปรโมชั่นที่น่าสนใจมากกว่าปรกติ เช่น ส่วนลดพิเศษถ้าซื้อช่วง Pre-Sale, ได้รับเฟอร์นิเจอร์ในคอนโดหลายชิ้นฟรี, ฟรีค่าธรรมเนียมต่างๆ, หรือส่วนลดค่าส่วนกลางตามระยะที่กำหนด ฯลฯ
2. สามารถเลือกห้องที่ต้องการได้อย่างเสรี ทั้งแบบห้อง และ ทำเลของห้องเพราะเหลือห้องให้เลือกมากมาย
3. ธนาคารสามารถปล่อยให้กู้ได้เต็มจำนวนของค่าห้อง
4. หากท่านเป็นนักลงทุน การซื้อห้องแบบ Pre-Sale ก็จะช่วยให้ท่านสามารถเพิ่มกำไรในการ ปล่อยเช่า หรือ ขายต่อ ได้ดีมากอีกด้วย
แต่ในข้อดีบางอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ท่านก็ควรพิจารณาถึงข้อเสียไว้ด้วย ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้ ดังนี้
1. การก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามกำหนด จึงไม่เหมาะกับคนที่ต้องการเข้าอยู่แบบเร่งด่วน หรือไม่เผื่อระยะเวลาให้กับการก่อสร้าง
2. ไม่ผ่านการขออนุมัติ EIA (หลายโครงการเปิดขายไปแล้ว ก่อสร้างไปแล้ว แต่ยื่นขอไม่ผ่าน)
3. หากเกิดข้อพิพาทใดๆ ในระหว่างการก่อสร้าง หรือ หลังจากสร้างเสร็จ ทำให้เสียเวลาในการฟ้องร้องและเสียสุขภาพจิตเป็นอย่างมาก
4. มีโอกาสที่วิวต่างๆ หรือบรรยากาศการเข้าพัก ที่เคยคิดไว้ว่าเราจะได้รับเป็นอย่างดีเมื่อตอนก่อนก่อสร้าง จะถูกบดบังในอนาคตเพราะโครงการใหม่ ๆ อาจจะก่อสร้างในภายหลังได้
โครงการ เดอะ เน็กซ (เจ็ดยอด 2) อยู่ห่างจาก 7-Eleven สาขา บ้านเจ็ดยอด (ต.ช้างเผือก) (12056) เพียงแค่ 30 เมตรเท่านั้น ซึ่งใช้เวลาเดินไปเพียง 1 นาที
และยังมีร้านต่างๆ ที่อยู่ใกล้กับโครงการ เดอะ เน็กซ (เจ็ดยอด 2) ซึ่ง 3 ร้านที่ใกล้ที่สุด คือ
- YangPao Modify อยู่ห่างไปเพียง 400 เมตร (เดินแค่ประมาณ 6 นาที)
- สบู่ไวร์ออร่าหน้าโลตัสเจ็ดยอด อยู่ห่างแค่ 620 เมตรเท่านั้น (ใช้เวลาเดินประมาณ 8 นาที)
- 147 avenue เจ็ดยอด ซึ่งอยู่ห่างไปแค่ 1.3 กม. (สามารถขับรถไปแค่ประมาณ 4 นาที)
ร้านอาหารที่ใกล้กับโครงการ เดอะ เน็กซ (เจ็ดยอด 2) นั้นมีให้เลือกมากมาย เราขอเสนอร้านที่ใกล้ที่สุด ดังนี้
- หม่าล่า แอบแซ่บ บ้านเจ็ดยอด นั้นอยู่ใกล้กับโครงการเพียง 30 เมตร (ซึ่งคุณสามารถเดินไปที่ร้านได้ ในเวลาประมาณ 1 นาที เท่านั้น)
- ไส้ย่างเนย อาตี๋ (สาขาบ้านเจ็ดยอด) อยู่ห่างจากโครงการเพียง 30 เมตร (คุณแค่เดินไปประมาณ 1 นาที ก็ถึงแล้ว)
- Siam Harmony ร้านอาหาร นั้นอยู่ห่างไปประมาณ 60 เมตร (เดินไปที่ร้านใช้เวลาประมาณ 1 นาที)
Ban Chet YOT Health Center เป็นสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ซึ่งห่างจากโครงการไป 460 เมตร (ซึ่งหากเดินไป ก็จะใช้เวลาประมาณ 6 นาที)
หากจะมองหาสถานศึกษาหรือแหล่งเรียนรู้ใกล้ๆกับโครงการ นี่คือสถานที่ที่เราแนะนำ
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านต๊ำพระแล อยู่ห่างไปเพียง 380 เมตรเท่านั้น (เดินไปแค่ 5 นาที เท่านั้นเอง)
- Wat Chet Yot School อยู่ห่างแค่ 620 เมตรเท่านั้น (หากจะเดินไป ก็ใช้เวลาประมาณ 9 นาที)
- โรงเรียนเสริมสวยกุหลาบทิพย์ อยู่ห่างไปประมาณ 490 เมตรเท่านั้นเอง (สามารถเดินเพียง 7 นาที ก็ถึง)
Chiang Mai International Airport นั้นอยู่ห่างจากโครงการ 6.7 กม. ซึ่งหากขับรถไปจะใช้เวลาโดยประมาณ 16 นาที หรือหากจะเดินทางด้วยแท๊กซี่ ก็ขึ้นอยู่กับการจราจร ณ ช่วงเวลานั้นๆ