จับตาตลาดอสังหาฯ พัทยา ดีมานด์ร้อนแรงจากผู้ซื้อทั่วโลก

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ตลาดอสังหาฯ พัทยามีความร้อนแรงมากขึ้นจากหลายปัจจัย ในปี 2566 ที่ผ่านมามีอุปสงค์จากผู้ที่กำลังหาซื้ออสังหาฯ ในพัทยาเข้ามากอย่างล้นหลาม และกว่า 73.39% เป็นการซื้อขายยูนิตมือสองที่เป็นการเปลี่ยนมือเจ้าของใหม่ เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดกำลังได้รับความนิยมสูงมาก แน่นอนว่าพัทยาดึงดูดนักลงทุนได้จากทั่วโลก ด้วยศักยภาพในการสร้างผลตอบแทน ท่ามกลางไลฟ์สไตล์ริมชายหาดอันงดงามและแสงสีของความเป็นเมือง ไม่เพียงแต่เปิดโอกาสทางการลงทุนเท่านั้น แต่ยังขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นในหลายภาคส่วนได้อย่างน่าทึ่ง

สิ่งที่น่าสนใจคือการลงทุนในตลาดอสังหาฯ พัทยามีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทั้ง คอนโดพัทยา, คอนโดพัทยา วิวทะเล หรือแม้แต่บ้านพัทยาราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท เป็นต้น ในบทความนี้เราจะนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอสังหาฯ ในพัทยา พร้อมวิเคราะห์แนวโน้ม อุปสงค์อุปทาน และปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อตลาดแห่งนี้

อุปทานในช่วง 2561 - 2566 เป็นอย่างไร?

ข้อมูลอุปทานจากฐานข้อมูลของ Kaibaanthai ชี้ให้เห็นว่าตลาดอสังหาฯ พัทยามีการขยายตัวอย่างน่าจับตามองในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงปี 2565 - 2566 ซึ่งมีการเพิ่มขึ้นของอุปทานอย่างน่าทึ่ง ทั้งในส่วนของคอนโดพัทยาและบ้านแนวราบ ตัวเลขชี้ว่าในปี 2565 มีอุปทานทั้งคอนโดและบ้านเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากปีก่อนหน้า และในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2566 มีอุปทานคอนโดเพิ่มขึ้นกว่า 710 ยูนิต และบ้านแนวราบ 504 ยูนิต ซึ่งเพิ่มจากปีก่อนหน้าประมาณ 26% และการเติบโตของอุปทานนี้มาจากทำเลย่านหนองปรือและห้วยใหญ่เป็นหลัก รวมกันแล้วคิดเป็น 58.48% ของอุปทานทั้งหมดในปี 2566 นอกจากนี้ส่วนแบ่งโดยรวมมาจากยูนิตมือสองมากกว่ายูนิตจากโครงการพัฒนาใหม่อยู่ที่ 59.87% และแม้จะมีอุปทานเพิ่มขึ้นมากแต่ราคาตลาดโดยรวมค่อนข้างคงที่ โดยอุปทานคอนโดพัทยามีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 3.8 ล้านบาท และบ้านพัทยาอยู่ที่ 9 ล้านบาทในปีเดียวกัน ซึ่งอาจแสดงถึงความสมดุลระหว่างอุปทานและอุปสงค์ในตลาดอสังหาฯ พัทยา

เจาะลึกข้อมูลอุปสงค์ตลาดอสังหาฯ พัทยา

แม้เศรษฐกิจโลกจะมีความผันผวนในช่วงการระบาดของโควิด-19 แต่ตลาดอสังหาฯ พัทยาแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยในปี 2565 ตัวเลขอุปสงค์พุ่งสูงถึงร้อยละ 57.97 จากปีก่อนหน้า ซึ่งแรงขับเคลื่อนี้ได้รับอิทธิพลมาจากความนิยมในการอยู่อาศัยในคอนโดที่เพิ่มขึ้น หรือที่เรียกว่า New Normal เห็นได้จากคอนโดพัทยามีดัชนีอุปสงค์สูงถึง 36.8 เทียบกับ 57.4 ของบ้านแนวราบในปีเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในตลาดโดยผู้คนต้องการซื้ออสังหาฯ ประเภทยูนิตมือสองมากกว่ายูนิตใหม่ โดยในปี 2565 ความต้องการซื้อจากเจ้าของเดิมหรือยูนิตมือสองคิดเป็นสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 66.67 ของจำนวนอุปสงค์ทั้งหมด

ช่วงระดับราคาที่ลูกค้าสนใจ

จากข้อมูลการกระจายตัวของช่วงระดับราคาที่ผู้ซื้อสนใจได้แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของตลาด ในช่วงปี 2563 ที่เป็นช่วงการระบาดของโควิด-19 มีสัดส่วนของระดับราคา 1 - 3 ล้านบาทสูงถึง 37.8% เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าระดับล่าง อย่างไรก็ตามเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นสัดส่วนของระดับราคาอสังหาฯ 5 ล้านบาทขึ้นไปก็เพิ่มสูงขึ้นทั้งคอนโดพัทยาโครงการใหม่และคอนโดพัทยา วิวทะเล ซึ่งในปี 2565 มีสัดส่วนถึง 50.62% ในขณะที่ในปี 2566 ช่วงไตรมาสแรกถึงไตรมาสที่ 3 ระดับราคา 3-5 ล้านบาทลดลงเหลือ 22.05% แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวของตลาดในแต่ละช่วงเพื่อให้สอดคล้องกับกำลังซื้อและความต้องการของลูกค้า

การวิเคราะห์แนวโน้มผู้ซื้อต่างประเทศประจำปี

ข้อมูลเปิดเผยถึงความนิยมอย่างชัดเจนจากนักลงทุนชาวต่างชาติ โดยเฉพาะการซื้อคอนโดมากกว่าบ้านแนวราบในพัทยา  แม้ว่าคนไทยจะยังคงเป็นผู้นำในตลาดที่ร้อยละ 62.43 แต่ข้อมูลโดยรวมพบว่าผู้ซื้อจากสหรัฐกำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้น จากร้อยละ 4.27 ในปี 2561 มาเป็นร้อยละ 6.19 ในปี 2566 ในขณะเดียวกันจำนวนผู้ซื้อจากอังกฤษมีแนวโน้มลดลงจากร้อยละ 4.89 เหลือ 3.37 ในช่วงเวลาเดียวกัน 

ข้อมูลธุรกรรมซื้อขายจริงในช่วงปี 2565-2566

ปริมาณการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในพัทยาแสดงให้เห็นถึงความฟื้นตัวของตลาดอย่างชัดเจน หลังจากมียอดขายเพียง 276 รายการในปี 2565 ตลาดได้กลับมาคึกคักอีกครั้งด้วยจำนวนการซื้อขาย 436 รายการในปี 2566 อย่างไรก็ตาม กิจกรรมทางการตลาดกระจุกตัวอยู่ในบางพื้นที่โดยเฉพาะ โดยนองปรู่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมมากที่สุด คิดเป็น 84.34% ของยอดขายคอนโดในปี 2566

นอกจากนี้ ตลาดมือสองก็มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนราคา โดยราคาบ้านมือสองเฉลี่ยพุ่งขึ้นจาก 8 ล้านบาทในปี 2565 เป็น 9.6 ล้านบาทในปี 2566 ส่วนราคาเฉลี่ยและราคากลางของคอนโดมิเนียมในปี 2566 อยู่ที่ 3.78 และ 2.77 ล้านบาทตามลำดับ

ในแง่ประเภททรัพย์สินและจำนวนห้องนอน ไฮไลท์สำคัญคือห้องนอน 1 ห้องครองสัดส่วนสูงสุดที่ 37.74% ของยอดขายทั้งหมดในปี 2566 รองลงมาคือ 2 ห้องนอน 35.48% ขณะที่ทรัพย์สินขนาดใหญ่ 4 ห้องนอนขึ้นไปมีเพียง 6% ของยอดขาย

โปรไฟล์ผู้ซื้อหลักในพัทยา

การทบทวนข้อมูลการซื้อขายในปี 2565 และ 2566 ให้ข้อสังเกตที่น่าสนใจเกี่ยวกับประชากรศาสตร์ของผู้ซื้อและความนิยมของทรัพย์สินแต่ละประเภท โดยเฉพาะการไม่ปรากฏชาวไทยในกลุ่มผู้ซื้อรายใหญ่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดพัทยายังคงเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักลงทุนและผู้พักผ่อนชาวต่างชาติเป็นหลัก

ตลาดอสังหาฯ พัทยาจะเป็นอย่างไรเมื่อมองไปข้างหน้า

ข้อมูลในปี 2565-2566 แสดงให้เห็นถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่งและราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นสำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์พัทยา โดยเฉพาะตลาดมือสองที่มีสภาพคล่องสูง ซึ่งส่งผลให้ราคาบ้านพัทยามือสองพุ่งขึ้นจากเฉลี่ย 8 ล้านบาทในปี 2565 เป็น 9.6 ล้านบาทในปี 2566

จากแนวโน้มดังกล่าว คาดการณ์ว่าอนาคตของตลาดพัทยายังคงมีแง่บวก โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่สม่ำเสมอและกลยุทธ์การกำหนดราคาที่เหมาะสม นักวิเคราะห์คาดว่าหากกิจกรรมการซื้อจากลูกค้าชาวรัสเซียยังคงดำเนินต่อไปในระดับปัจจุบัน ราคาบ้านหรูจะปรับตัวสูงขึ้นราว 5% ภายในปี 2568 อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอาจส่งผลกระทบชั่วคราวต่อแนวโน้มการเติบโตได้ แต่อย่างไรก็ตามหากคุณกำลังตามหาบ้านพัทยา 1.5 ล้านบาท หรือบ้านพัทยา ราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท สามารถค้นหาบนเว็บไซต์ของเราได้ทันที รวมไปถึงคอนโดพัทยา, คอนโดพัทยาโครงการใหม่ และคอนโดพัทยา วิวทะเลด้วยเช่นเดียวกัน คลิกปุ่มข้างล่างนี้ได้เลย!

บ้าน/คอนโดติดทะเลพัทยา คลิก!